เราได้พยายามที่จะทำให้แน่ใจว่าการรวบรวมคอมโพเนนต์ tarballs ของ apr, apr-iconv และ apr-util ต้องใช้อะไรมากไปกว่าสิ่งที่ได้รับการติดตั้งมาโดยค่าเริ่มต้นบนแพลตฟอร์มยูนิกซ์ต่างๆที่คุณต้องทำทั้งหมดนี้โปรดทราบว่าถ้าคุณกำลังรวบรวมข้อมูลโดยตรงจาก พื้นที่เก็บข้อมูลโค่นล้มคุณจะต้องติดตั้ง GNU autoconf และ GNU libtool และคุณจำเป็นต้องเรียกใช้ buildconf ก่อนที่จะรันคำสั่งที่ระบุไว้ด้านบนสร้าง RPM Redhat CentOS Fedora ในขณะที่ APR มีให้ใช้เป็น RPM สำหรับการแจกจ่ายส่วนใหญ่บางครั้งอาจเป็นที่ต้องการของ ติดตั้งและใช้ APR ตามรูปแบบบัญญัติในระบบเหล่านี้โดยแทนที่แพ็กเกจที่ได้รับมาโดยธรรมชาติในขณะที่โครงการ APR ไม่ได้สร้าง RPM แบบไบนารีสำหรับการแจกจ่ายต่างๆออกไปในที่นี้คุณสามารถสร้าง RPM แบบไบนารีของคุณเองได้จากรูปแบบบัญญัติ APR และ APR-Util tarballs ดังต่อไปนี้ APR และ APR-Util tarballs ของแหล่งข้อมูลสามารถแปลงเป็น SRPMs ได้ดังต่อไปนี้ rpmbuild - ts rpmbuild - ts APM RPM สามารถสร้างได้โดยตรงจาก APR tarball แหล่งที่มาโดยใช้คำสั่งต่อไปนี้: rpmbuild - tb. Correcting - devel packages จะต้องมีการติดตั้งในระบบ build ก่อนที่จะสร้าง RPMs คำสั่ง rpmbuild จะคำนวณ RPM ที่ต้องการโดยอัตโนมัติและจะแสดงรายการการอ้างอิงใด ๆ ที่ขาดหายไป ระบบของคุณแพคเกจเหล่านี้จะไม่จำเป็นต้องใช้หลังจากการสร้างเสร็จสมบูรณ์และสามารถลบออกได้อย่างปลอดภัยหากประสบความสำเร็จ RPM ต่อไปนี้จะถูกสร้างขึ้น ไลบรารี APR หลักการแก้จุดบกพร่องสัญลักษณ์สำหรับไลบรารีส่วนหัวและไฟล์สำหรับการพัฒนาสำหรับไลบรารี APR-Util RPM สามารถสร้างได้โดยตรงจาก tarball แหล่ง APR-Util โดยใช้คำสั่งต่อไปนี้ - rpmbuild - tb หากประสบความสำเร็จ RPM ต่อไปนี้จะเป็น สร้าง ไลบรารี APR-Util หลักของ Debugging สัญลักษณ์สำหรับไลบรารีส่วนหัวและแฟ้มการพัฒนาสำหรับไดร์เวอร์ DBM ของไลบรารีขึ้นอยู่กับโปรแกรม DBD Postgres ของ DB4 ขึ้นอยู่กับไดร์เวอร์ MySQL DBDB ของ postgresql ขึ้นอยู่กับไดร์เวอร์ SQLite3 ของ DBD ของ mysql ขึ้นอยู่กับ sqlite3 DBD FreeTDS driver บนโปรแกรมควบคุม ODD DBD ODBC แบบโอเพ่นซอร์สขึ้นอยู่กับไดรเวอร์ UNIXODBC LDAP ขึ้นอยู่กับ OpenIDAP โปรแกรมควบคุม Crypto OpenSSL ขึ้นอยู่กับไดรเวอร์ openssl Crypto NSS ขึ้นอยู่กับ Mozilla NSS. Apache Tomcat 6 0.Apache Tomcat 6 0. Tomcat สามารถใช้ Apache Portable Runtime เพื่อให้ ความสามารถในการขยายขีดความสามารถประสิทธิภาพที่เหนือกว่าประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเซิร์ฟเวอร์พื้นเมืองได้ดียิ่งขึ้น Apache Portable Runtime เป็นไลบรารีแบบพกพาที่เป็นหัวใจสำคัญของ Apache Server 2 x APR มีการใช้งานมากมายรวมถึงการเข้าถึงฟังก์ชันการทำงาน IO ขั้นสูงเช่น sendfile, epoll และ OpenSSL, การทำงานระดับ OS การสร้างตัวเลขแบบสุ่ม, สถานะระบบ, ฯลฯ และการประมวลผลแบบดั้งเดิมของหน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน, ท่อ NT และซ็อกเก็ต Unix คุณสมบัติเหล่านี้ทั้งหมด การทำให้ Tomcat เป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานทั่วไปจะช่วยให้สามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเว็บอื่น ๆ ได้ดียิ่งขึ้นและทำให้ Java สามารถทำงานได้ดียิ่งขึ้นในฐานะแพลตฟอร์มเว็บเซิร์ฟเวอร์เต็มรูปแบบแทนที่จะเป็นเพียงเทคโนโลยีที่เน้นการแบ็กเอนด์การสนับสนุน API ต้องใช้องค์ประกอบหลักสามอย่างที่จะติดตั้ง. APR library. JNI wrappers สำหรับ APR ที่ใช้โดย Tomcat libtcnative. OpenSSL libraries. Windows มีให้สำหรับ tcnative-1 ซึ่งเป็นคอมไพล์แบบสแตนด์อโลนซึ่งรวมถึง OpenSSL และ APR สามารถดาวน์โหลดได้จากที่นี่ที่ 32bit หรือ AMD x86-64 binaries In ควรใช้ shared dll ที่แยกต่างหากสำหรับ OpenSSL, APR และ libtcnative-1 และอัปเดตตามความต้องการตามประกาศความปลอดภัย Windows Reverser ของ OpenSSL จะเชื่อมโยงจากเว็บไซต์ OpenSSL อย่างเป็นทางการดูไบนารีที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่การกระจาย Linux จะ แพคเกจเรือสำหรับเมษายนและ OpenSSL กระดาษห่อ JNI libtcnative แล้วจะต้องมีการรวบรวมขึ้นอยู่กับเมษายน, OpenSSL และ Java headers. APR 1 2 ส่วนหัวของการพัฒนา libapr1-dev package. OpenSSL 0 9 7 ส่วนหัวของการพัฒนา libssl-dev package. JNI ส่วนหัวจาก Java เข้ากันได้ JDK 1 4 GNU สิ่งแวดล้อมการพัฒนา gcc ทำให้แหล่งห่อหุ้มห้องสมุดตั้งอยู่ในกลุ่มไบนารี Tomcat ในการเก็บถาวรเมื่อมีการติดตั้งสภาพแวดล้อมการสร้างและเก็บข้อมูลต้นฉบับจะได้รับการรวบรวมไลบรารีห่อหุ้มจะสามารถรวบรวมโดยใช้จากโฟลเดอร์ที่มีสคริปต์กำหนดค่าเมื่อห้องสมุดถูกติดตั้งอย่างถูกต้องและพร้อมใช้งานสำหรับ Java ถ้าการโหลดล้มเหลวเส้นทางห้องสมุดจะ จะแสดงการเชื่อมต่อ Tomcat จะใช้ APR โดยอัตโนมัติการกำหนดค่าของตัวเชื่อมต่อจะคล้ายกับตัวเชื่อมต่อปกติ แต่มีแอตทริบิวต์พิเศษบางตัวที่ใช้ในการกำหนดค่าคอมโพเนนต์ APR โปรดทราบว่าควรตั้งค่าเริ่มต้นสำหรับกรณีการใช้งานส่วนใหญ่และการปรับแต่งเพิ่มเติม ไม่จำเป็นต้องใช้เมื่อเปิดใช้ APR คุณลักษณะต่อไปนี้จะเปิดใช้งานใน Tomcat การสร้าง ID เซสชันโดยค่าเริ่มต้นบนแพลตฟอร์มแพลตฟอร์มทั้งหมด นอกเหนือจากการสร้างตัวเลขแบบสุ่มโดยใช้สถิติกำหนดระดับ entropy. OS ในการใช้หน่วยความจำและการใช้งาน CPU โดยกระบวนการ Tomcat จะแสดงโดยเซิร์ฟเล็ตสถานะการกำหนดค่า Lifecycle Listener ของ APR ชื่อของ SSLEngine เพื่อใช้ปิดไม่ใช้ SSL บน ใช้ SSL แต่ไม่มีเครื่องยนต์ที่ระบุค่าดีฟอลต์คือเปิดใช้งานเอ็นจิ้น SSL แบบเดิมจากนั้นเปิดใช้งานการใช้เครื่องมือนี้ในตัวเชื่อมต่อโดยใช้แอ็ตทริบิวต์ SSLEnabled ตัวอย่างดูเว็บไซต์ OpenSSL อย่างเป็นทางการเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องยนต์ฮาร์ดแวร์และผู้ผลิต SSL APR ถูกเปิดใช้งานตัวเชื่อมต่อจะใช้ sendfile เพื่อจัดการกับไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ทั้งหมดไฟล์ดังกล่าวจะถูกส่งแบบ asynchronously โดยใช้เคอร์ลีนระดับประสิทธิภาพสูงและจะใช้ poller ซ็อกเก็ตสำหรับ keepalive เพิ่มความสามารถในการปรับขยายของเซิร์ฟเวอร์คุณลักษณะต่อไปนี้ได้รับการสนับสนุนใน APR นอกเหนือจากที่สนับสนุนในช่องต่อปกติจำนวนมิลลิวินาทีตัวเชื่อมต่อนี้จะรอให้คำขออีกครั้งหนึ่ง แร่ปิดการเชื่อมต่อค่าดีฟอลต์คือการใช้ค่าที่ได้รับการตั้งค่าสำหรับแอ็ตทริบิวต์ connectionTimeout ค่านี้จะควบคุมระยะหมดเวลาที่ใช้สำหรับการเชื่อมต่อของดาวหางด้วยการลดค่านี้จะลดความแฝงของการเชื่อมต่อชั่วคราวลงเล็กน้อย มีชีวิตอยู่ในบางกรณี แต่จะใช้ซีพียูมากขึ้นเนื่องจากมีการเรียกเก็บค่าโทรศัพท์มากขึ้นค่าดีฟอลต์คือ 2000 5ms จำนวนซ็อกเก็ตที่ poller ที่รับผิดชอบในการโพลลิงยังสามารถเชื่อมต่อได้ตลอดเวลาการเชื่อมต่อพิเศษจะถูกปิดทันที ค่าดีฟอลต์คือ 8192 ซึ่งสอดคล้องกับการเชื่อมต่อแบบ keepalive 8192 หมายเลขของเธรดที่ใช้ในการเก็บการเชื่อมต่อที่ยังมีชีวิตอยู่ใน Windows เลือกค่าเริ่มต้นเพื่อให้ซ็อกเก็ตที่จัดการโดยแต่ละเธรดมีค่าน้อยกว่า 1024 สำหรับ Linux ค่าดีฟอลต์คือ 1 การเปลี่ยนค่าดีฟอลต์ใน Windows คือ มีแนวโน้มที่จะมีผลกระทบเชิงลบส่งผลกระทบต่อ sendfile ระดับเคอร์เนลสำหรับไฟล์คงที่บางค่าเริ่มต้นเป็น true จำนวนซ็อกเก็ตที่ poller resp onsible สำหรับการส่งไฟล์แบบสแตนด์อะโลนสามารถเก็บไว้ได้ในเวลาที่กำหนดการเชื่อมต่อพิเศษจะถูกปิดทันทีโดยไม่ส่งข้อมูลใด ๆ ส่งผลให้ไฟล์ความยาวเป็นศูนย์ในฝั่งไคลเอ็นต์ทราบว่าในกรณีส่วนใหญ่ sendfile คือสายที่จะกลับทันที ดูแลโดย synchronously kernel และ sendfile poller จะไม่ถูกใช้ดังนั้นจำนวนของแฟ้มแบบคงที่ซึ่งสามารถส่งพร้อมกันมีขนาดใหญ่กว่าจำนวนที่ระบุค่าดีฟอลต์คือ 1024 หมายเลขของเธรดที่ใช้บริการ sendfile ซ็อกเก็ตบน Windows ค่าดีฟอลต์ถูกเลือกเพื่อให้ซ็อกเก็ตที่จัดการโดยแต่ละเธรดน้อยกว่า 1024 สำหรับ Linux ค่าดีฟอลต์คือ 1 การเปลี่ยนค่าดีฟอลต์ใน Windows น่าจะมีผลกระทบเชิงลบเมื่อ APR เปิดใช้งานตัวเชื่อมต่อจะใช้ poller ซ็อกเก็ตสำหรับ keepalive การเพิ่มความสามารถในการปรับขนาดของเซิร์ฟเวอร์นอกจากนี้ยังใช้ OpenSSL ซึ่งอาจมีการเพิ่มประสิทธิภาพมากกว่า JSSE ขึ้นอยู่กับโปรเซสเซอร์ที่ใช้และสามารถเสริมด้วยความรวดเร็วในเชิงพาณิชย์ คอมโพเนนต์ ator ไม่เหมือนกับ connector ตัวเชื่อมต่อไม่สามารถใช้ sendfile เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลไฟล์แบบคงที่ได้ APR connector มีลักษณะพื้นฐานที่เหมือนกันกับ APR connector แต่เพิ่ม OpenSSL เฉพาะสำหรับรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับการใช้ OpenSSL โปรดดูเอกสาร OpenSSL และ มีหนังสือหลายเล่มให้ดูที่เว็บไซต์ OpenSSL อย่างเป็นทางการคุณลักษณะเฉพาะสำหรับ SSL สำหรับส่วนต่อคือเปิดใช้งาน SSL บนซ็อกเก็ตค่าดีฟอลต์คือ false ตั้งค่านี้เป็น true เพื่อเปิดใช้งานการถอดรหัสการเข้ารหัสลับการเชื่อมต่อ SSL ในส่วนเชื่อมต่อ APR Protocol ซึ่งอาจใช้ สำหรับการสื่อสารกับลูกค้าค่าดีฟอลต์คือทั้งหมดที่เทียบเท่า TLSv1 ที่มีค่าที่ยอมรับได้อื่น ๆ คือ SSLv2 SSLv3 TLSv1 TLSv1 1 และ TLSv1 2 เริ่มต้นกับเวอร์ชัน 1 1 21 ของไลบรารีดั้งเดิมของ Tomcat การรวมโปรโตคอลเหล่านี้เข้าด้วยกันคือเครื่องหมายบวก ได้รับการสนับสนุนโปรดสังเกตว่าทั้งสองโปรโตคอล SSLv2 และ SSLv3 มีความปลอดภัยโดยเนื้อแท้การใช้ TLSv1 1 และ TLSv1 2 ต้องใช้ Tomcat native v1 1 32 หรือ hig her. Ciphers ที่ใช้สำหรับติดต่อกับลูกค้าค่าดีฟอลต์คือ High aNull eNULL ส่งออก RC4 MD5 kRSA ดูเอกสารประกอบ OpenSSL เพื่อดูรายละเอียดของตัวเลือกการตั้งค่าการเข้ารหัส ชื่อของไฟล์ที่มีคีย์ส่วนตัวของเซิร์ฟเวอร์รูปแบบเป็น PEM-encoded ค่าดีฟอลต์คือค่าของ SSLCertificateFile และในกรณีนี้ต้องมีใบรับรองและคีย์ส่วนตัวอยู่ในไฟล์นี้ NOT RECOMMENDED. ตั้งค่าการบีบอัดหากตั้งค่าเป็น true และ OpenSSL สนับสนุนการปิดใช้งานการบีบอัดค่าดีฟอลต์คือ false ซึ่งสืบทอดการตั้งค่าการบีบอัดเป็นค่าดีฟอลต์ใน OpenSSL ตั้งค่าให้เป็น true เพื่อบังคับใช้ลำดับเลขฐานสิบหกของเซิร์ฟเวอร์จากการตั้งค่า SSLCipherSuite แทนการอนุญาตให้ไคลเอ็นต์เลือกเฟรมซึ่งเป็นค่าดีฟอลต์โดยใช้คีย์ส่วนตัวสำหรับคีย์ส่วนตัวที่เข้ารหัสลับ ถ้าไม่ได้ระบุ SSLPassword ฟังก์ชัน callback ควรแจ้งให้กับวลีรหัสผ่านอนุญาตให้ไคลเอ็นต์สำหรับใบรับรองค่าดีฟอลต์คือ none หมายถึง cli ent จะไม่มีโอกาสในการส่งใบรับรองค่าที่ยอมรับได้อื่น ๆ ได้แก่ optional, required และ optionalNoCA ระดับการตรวจสอบความถูกต้องสูงสุดสำหรับใบรับรองไคลเอ็นต์ค่าเริ่มต้นคือ 10. เมื่อ APR เปิดใช้งานตัวเชื่อมต่อ AJP จะใช้ poller ซ็อกเก็ตสำหรับ keepalive เพิ่มความสามารถในการปรับขนาดได้ เซิร์ฟเวอร์เนื่องจาก AJP ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการเชื่อมต่อแบบถาวรหรือเกือบจะต่อเนื่องซึ่งจะช่วยลดจำนวนโพรเซสซิ่งเธรดที่จำเป็นโดย Tomcat แตกต่างจากตัวเชื่อมต่อช่องเสียบ AJP ไม่สามารถใช้ sendfile เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลไฟล์แบบคงที่ได้ เชื่อมต่อ APR AJP นอกเหนือจากที่สนับสนุนในการเชื่อมต่อแบบ AJP ปกติการเพิ่มการเรียกโพลลดค่านี้จะช่วยลดเวลาในการเชื่อมต่อที่ยังคงมีชีวิตอยู่ในบางกรณี แต่จะใช้ CPU มากขึ้นเนื่องจากมีการเรียกแบบสำรวจความคิดเห็นเพิ่มเติม ค่าดีฟอลต์คือ 2000 5 มิลลิเมตรจำนวนซ็อกเก็ตที่โพลเลอร์ที่รับผิดชอบในการลงทะเบียนการเชื่อมต่อที่เก็บไว้ที่ยังคงมีชีวิตอยู่ได้ที่ gi เวลาเปิดใช้งานการเชื่อมต่อพิเศษจะถูกปิดทันทีค่าดีฟอลต์คือ 8192 ซึ่งสอดคล้องกับ 8:19 keepalive connections. configure - กำหนดคอนฟิกโครงสร้างต้นทางสคริปต์ configure กำหนดค่าซอร์สโค้ดสำหรับรวบรวมและติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ Apache บนแพลตฟอร์มเฉพาะของคุณ คอมไพล์ของเซิร์ฟเวอร์ที่สอดคล้องกับความต้องการส่วนบุคคลของคุณสคริปต์นี้รวมอยู่ในไดเร็กทอรีรากของการแจกจ่ายที่มาสำหรับคอมไพล์ในระบบยูนิกซ์และ Unix-like เท่านั้นสำหรับแพลตฟอร์มอื่นโปรดดูเอกสารประกอบของแพลตฟอร์มคุณควรเรียกสคริปต์ configure จาก ภายในไดเร็กทอรีรากของการแจกจ่าย กำหนดค่าตัวแปรสภาพแวดล้อมเช่น CC CFLAGS ระบุเป็น VAR VALUE ดูด้านล่างสำหรับคำอธิบายของตัวแปรที่เป็นประโยชน์บางตัวเลือกต่อไปนี้มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมในการกำหนดคอนฟิกตัวเอง - C --config-cache นี่คือนามแฝง สำหรับ - cache-file FILE ผลลัพธ์การทดสอบจะถูกแคชไว้ในไฟล์ FILE ตัวเลือกนี้ถูกปิดการใช้งานโดยค่าเริ่มต้น - h --help recursive สั้นเอาท์พุทช่วยและออกด้วยอาร์กิวเมนต์ตัวเลือกเฉพาะสั้น ๆ เฉพาะกับแพคเกจนี้จะแสดงอาร์กิวเมนต์ recursive แสดง ความช่วยเหลือสั้น ๆ ของแพคเกจทั้งหมดที่มีอยู่ - n --no-create สคริปต์ configure ทำงานตามปกติ แต่ไม่ได้สร้างไฟล์ที่ส่งออกซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการตรวจสอบผลการทดสอบก่อนที่จะสร้าง makefiles สำหรับการรวบรวม - q - quiet อย่าพิมพ์ข้อความตรวจสอบ ในระหว่างกระบวนการกำหนดค่า --srcdir DIR กำหนดไดเร็กทอรี DIR เป็นไดเร็กทอรีไฟล์ต้นทางค่าดีฟอลต์คือไดเร็กทอรีที่ตั้งค่าคอนฟิกหรือไดเรกทอรีหลัก --silent เหมือนกับ --quiet - V --version Display cop yright ข้อมูลและทางออกตัวเลือกเหล่านี้กำหนดไดเรกทอรีการติดตั้งต้นไม้การติดตั้งขึ้นอยู่กับเค้าโครงที่เลือกไว้คำนำหน้า PREFIX ติดตั้งไฟล์สถาปัตยกรรมแบบอิสระใน PREFIX ตามค่าดีฟอลต์ไดเร็กทอรีการติดตั้งถูกตั้งเป็น usr local apache2 --exec-prefix EPREFIX ติดตั้งสถาปัตยกรรม ไฟล์ที่กำหนดเองใน EPREFIX โดยค่าเริ่มต้นไดเร็กทอรีการติดตั้งจะถูกกำหนดเป็นไดเรกทอรี PREFIX โดยค่าเริ่มต้นให้ติดตั้งจะติดตั้งไฟล์ทั้งหมดใน usr local apache2 bin usr local apache2 lib etc คุณสามารถระบุคำนำหน้าการติดตั้งนอกเหนือจาก usr local apache2 โดยใช้ - - prefix เช่น - prefix HOME - เลย์เอาต์การเปิดใช้งาน - กำหนดการซอร์สโค้ดและสร้างสคริปต์เพื่อกำหนดโครงสร้างการติดตั้งตามเค้าโครงเลย์เอาต์ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถระบุสถานที่สำหรับไฟล์แต่ละประเภทภายในการติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ Apache แยกต่างหาก ไฟล์นี้มีการกำหนดค่าตัวอย่างเช่นคุณสามารถสร้างการกำหนดค่าที่กำหนดเองได้ตามตัวอย่าง ไฟล์นี้จะถูกจัดกลุ่มเป็นส่วน Layout FOO Layout และเรียกตามชื่อใน FOO เค้าโครงดีฟอลต์คือ Apache สำหรับการควบคุมไดเร็กทอรีการติดตั้งได้ดีขึ้นให้ใช้ตัวเลือกด้านล่างนี้โปรดทราบว่าค่าดีฟอลต์ของไดเร็กทอรีถูกกำหนดโดย autoconf และจะถูกเขียนทับโดย การตั้งค่าเค้าโครงที่สอดคล้องกัน - bindir DIR ติดตั้ง executables ของผู้ใช้ใน DIR executables ของผู้ใช้จะสนับสนุนโปรแกรมต่างๆเช่น htpasswd dbmmanage ฯลฯ ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้ดูแลระบบไซต์โดยค่าดีฟอลต์ DIR ถูกตั้งค่าเป็น EPREFIX bin - datadir DIR ติดตั้งข้อมูลสถาปัตยกรรมแบบอ่านอย่างเดียวใน DIR โดยค่าเริ่มต้น datadir ถูกตั้งค่าเป็น PREFIX share ตัวเลือกนี้มีให้โดย autoconf และไม่ได้ใช้ในปัจจุบัน --includedir DIR การติดตั้ง C ไฟล์ส่วนหัวใน DIR โดยค่าเริ่มต้น includeir ถูกตั้งค่าเป็น EPREFIX ได้แก่ --infodir DIR ติดตั้งเอกสารข้อมูลใน DIR โดยค่าเริ่มต้น infodir ถูกตั้งค่าไว้ เพื่อ PREFIX info ตัวเลือกนี้ยังไม่ได้ใช้ --libdir DIR ติดตั้งไลบรารีรหัสอ็อบเจ็กต์ใน DIR โดยดีฟอลต์ libdir ถูกตั้งค่าเป็น EPREFIX lib --libexecdir DIR Instal l executables ของโปรแกรมเช่นโมดูลที่ใช้ร่วมกันใน DIR โดยค่าเริ่มต้น libexecdir ถูกตั้งค่าให้เป็นโมดูล EPREFIX --localstatedir DIR ติดตั้งข้อมูลเครื่องเดียวที่ปรับเปลี่ยนได้ใน DIR โดยดีฟอลต์ localstatedir ถูกตั้งค่าเป็น PREFIX var ตัวเลือกนี้มีให้โดย autoconf และไม่ได้ใช้งาน --mandir DIR ติดตั้งเอกสาร man ใน DIR โดยค่าเริ่มต้น mandir ถูกตั้งค่าเป็น EPREFIX man --oldincirir DIR ติดตั้ง C ไฟล์ส่วนหัวสำหรับ non-gcc ใน DIR โดยค่าเริ่มต้น oldincludedir ถูกตั้งค่าเป็น usr รวมตัวเลือกนี้จะนำเสนอโดย autoconf และไม่ได้ใช้งานปัจจุบัน --sirdir DIR Install executables ระบบปฏิบัติการใน DIR เหล่านี้เป็นโปรแกรมเซิร์ฟเวอร์เช่น apachectl suexec ฯลฯ ซึ่งจำเป็นสำหรับการรันเซิร์ฟเวอร์ Apache โดยค่าเริ่มต้น sbindir ถูกตั้งค่าเป็น EPREFIX sbin --sharedstatedir DIR ติดตั้งข้อมูลที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถาปัตยกรรมได้ใน DIR โดยค่าเริ่มต้น sharedstatedir ถูกตั้งค่าเป็น PREFIX com ตัวเลือกนี้มีให้โดย autoconf และปัจจุบันที่ไม่ได้ใช้ --sysconfdir DIR ติดตั้งข้อมูลเครื่องเดียวแบบอ่านอย่างเดียวเช่นไฟล์การกำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์ e tc ใน DIR โดยดีฟอลต์ sysconfdir ถูกตั้งค่าเป็น PREFIX conf ตัวเลือกเหล่านี้ถูกใช้เพื่อข้ามคอมไพล์เซิร์ฟเวอร์ Apache เพื่อรันบนระบบอื่นในกรณีปกติเมื่อสร้างและใช้งานเซิร์ฟเวอร์บนระบบเดียวกันตัวเลือกเหล่านี้จะไม่ถูกใช้ - สร้าง BUILD กำหนดชนิดของระบบของระบบที่มีการสร้างเครื่องมือค่าเริ่มต้นเป็นผลลัพธ์ของสคริปต์ --host HOST กำหนดชนิดของระบบของระบบที่เซิร์ฟเวอร์จะเรียกใช้ HOST ค่าเริ่มต้นเป็น BUILD - กำหนดเป้าหมาย กำหนดค่าสำหรับสร้างคอมไพเลอร์สำหรับชนิดของระบบ TARGET ค่าเริ่มต้นเป็น HOST ตัวเลือกนี้มีให้โดย autoconf และไม่จำเป็นสำหรับเซิร์ฟเวอร์ Apache โดยจะใช้ตัวเลือกเหล่านี้เพื่อปรับแต่งคุณสมบัติต่างๆที่เซิร์ฟเวอร์ของคุณจะมีอยู่โดยทั่วไปคุณสามารถใช้ไวยากรณ์ต่อไปนี้เพื่อเปิดใช้งาน หรือปิดใช้งานคุณลักษณะ - ปิดใช้งาน - FEATURE ไม่รวม FEATURE เช่นเดียวกับ - เปิดใช้งาน - FEATURE ไม่ - เปิดใช้งาน FEATURE ARG รวม FEATURE ค่าเริ่มต้นสำหรับ ARG คือใช่ - เปิดใช้งาน - MODULE ใช้ร่วมกันโมดูลที่เกี่ยวข้องจะ สร้าง เป็นโมดูล DSO โดยค่าเริ่มต้นเปิดใช้งานโมดูลมีการเชื่อมโยงแบบไดนามิก - เปิดใช้งาน MODULE คงที่โมดูลที่เกี่ยวข้องจะเชื่อมโยง statically. configure จะไม่บ่นเกี่ยวกับ --enable - foo แม้ว่า foo doesn t อยู่ดังนั้นคุณต้องพิมพ์อย่างระมัดระวังโมดูลส่วนใหญ่ ถูกคอมไพล์โดยค่าเริ่มต้นและต้องถูกปิดใช้งานอย่างชัดเจนหรือโดยการใช้คีย์เวิร์คที่ไม่ค่อยเห็น --enable-modules --enable-mods-shared และ --enable-mods-static ด้านล่างสำหรับคำอธิบายเพิ่มเติมหรือ - denable-modules none to be ลบออกเป็นกลุ่มโมดูลอื่น ๆ ไม่ได้รวบรวมโดยค่าเริ่มต้นและต้องเปิดใช้งานอย่างชัดเจนหรือโดยใช้คำหลักทั้งหมดหรือ reallyall ที่จะใช้ได้เมื่อต้องการค้นหาโมดูลที่จะรวบรวมโดยค่าเริ่มต้นให้เรียกใช้การกำหนดค่า - h หรือกำหนดค่า - ช่วยเหลือและ ดูที่ตัวเลือกภายใต้คุณลักษณะสมมติว่าคุณสนใจโหมดเอ็กซเพรส 1 และโหมดเอ็มเอ 2 และคุณจะเห็นข้อมูลนี้จากนั้นโหมด xample1 จะเปิดใช้งานตามค่าเริ่มต้นและคุณจะใช้ --disable-example1 เพื่อไม่สามารถคอมไพล์ได้ modexample2 ถูกปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้นและคุณจะใช้ - เปิดใช้งานได้ - example2 เพื่อรวบรวม i t. Multi-Processing Modules หรือ MPMs ใช้ลักษณะการทำงานพื้นฐานของเซิร์ฟเวอร์ MPM เดียวจะต้องใช้งานอยู่เพื่อให้เซิร์ฟเวอร์สามารถทำงานได้รายการ MPM ที่มีอยู่จะปรากฏในหน้าดัชนีโมดูล MPM สามารถสร้างเป็น DSO สำหรับการโหลดแบบไดนามิก หรือเชื่อมโยงแบบคงที่กับเซิร์ฟเวอร์และเปิดใช้งานโดยใช้ตัวเลือกต่อไปนี้เลือก MPM เริ่มต้นสำหรับเซิร์ฟเวอร์ของคุณถ้า MPMs สร้างขึ้นเป็นโมดูล DSO ให้ดูที่ --enable-mpms-shared คำสั่งนี้จะเลือก MPM ซึ่งจะถูกโหลดเป็นค่าดีฟอลต์ configuration file มิฉะนั้นคำสั่งนี้จะเลือกเฉพาะ MPM ที่พร้อมใช้งานซึ่งจะเชื่อมโยงแบบสถิตกับเซิร์ฟเวอร์หากตัวเลือกนี้ถูกละไว้ค่า MPM เริ่มต้นสำหรับระบบปฏิบัติการของคุณจะถูกใช้ใช้งานรายการ MPMs เป็นโมดูลที่ใช้ร่วมกันแบบไดนามิกหนึ่งในนั้น โมดูลจะต้องโหลดแบบไดนามิกโดยใช้คำสั่ง LoadModuleMPM-LIST คือรายการ MPM ที่คั่นด้วยช่องว่างด้วยเครื่องหมายคำพูดตัวอย่างเช่นนอกจากนี้คุณสามารถใช้คำหลักพิเศษทั้งหมดซึ่งจะเลือก MPM ทั้งหมดที่ สนับสนุนการโหลดแบบไดนามิกบนแพลตฟอร์มปัจจุบันและสร้างเป็นโมดูล DSO ตัวอย่างเช่นหากต้องการเพิ่มโมดูลของบุคคลที่สามเพิ่มเติมให้ใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ - พร้อมโมดูล module-type module-file module-type module-file เพิ่มหนึ่งหรือ โมดูลอื่น ๆ ของ บริษัท อื่นในรายการโมดูลที่เชื่อมโยงแบบคงที่โมดูลไฟล์ต้นฉบับของโมดูลจะถูกค้นหาในไดเร็กทอรีย่อยโมดูลชนิดของต้นไม้ต้นทางของเซิร์ฟเวอร์ Apache ถ้าไม่พบมีการกำหนดค่ากำลังพิจารณาแฟ้มโมดูลเป็น เส้นทางไฟล์แน่นอนและพยายามที่จะคัดลอกแฟ้มต้นฉบับลงในไดเรกทอรีย่อยชนิดโมดูลถ้าไดเรกทอรีย่อย doesn t อยู่จะถูกสร้างขึ้นและบรรจุด้วยมาตรฐานตัวเลือกนี้จะเป็นประโยชน์ในการเพิ่มโมดูลภายนอกขนาดเล็กประกอบด้วยแฟ้มแหล่งเดียวสำหรับโมดูลที่ซับซ้อนมากขึ้น คุณควรอ่านเอกสารประกอบของผู้ขายถ้าคุณต้องการสร้างโมดูล DSO แทนที่จะใช้ API apxs ที่เชื่อมโยงแบบคงที่ - enable-maintainer-mode เปิดการดีบักและรวบรวมคำเตือนเวลาและโหลดโมดูลที่คอมไพล์ทั้งหมด --enable-mods - shared MODULE-LIST ระบุรายการโมดูลที่จะเปิดใช้งานและสร้างเป็นโมดูลที่ใช้ร่วมกันแบบไดนามิกซึ่งหมายความว่าโมดูลเหล่านี้ต้องโหลดแบบไดนามิกโดยใช้คำสั่ง LoadModule รายชื่อ - MODULE คือรายการที่แยกออกจากกันของ modulenames ที่ล้อมรอบด้วยเครื่องหมายคำพูด ชื่อโมดูลจะได้รับโดยไม่ต้อง mod ก่อนตัวอย่างเช่น. - หัว modems - ใช้ร่วมกันเขียน dav. Additionally คุณสามารถใช้คำหลักพิเศษ reallyall ทั้งหมดมากที่สุดและน้อยตัวอย่างเช่นจะรวบรวมโมดูลมากที่สุดและสร้างพวกเขาเป็น DSO modules. will เท่านั้น รวบรวมชุดพื้นฐานของโมดูลชุดเริ่มต้นเป็นที่สุดคำสั่ง LoadModule สำหรับโมดูลที่เลือกจะถูกสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติในแฟ้มการกำหนดค่าหลักโดยค่าเริ่มต้นคำแนะนำเหล่านี้ทั้งหมดจะถูกแสดงความคิดเห็นออกยกเว้นโมดูลที่จำเป็นหรืออย่างชัดเจน เลือกโดยอาร์กิวเมนต์ configure --enable-foo คุณสามารถเปลี่ยนชุดของโมดูลที่โหลดได้โดยการเปิดใช้งานหรือปิดใช้งานคำสั่ง LoadModule ในนอกจากนี้ไดอะล็อก LoadModule สำหรับ al l โมดูลที่สร้างขึ้นสามารถเปิดใช้งานผ่านทางตัวเลือกการกำหนดค่า - เปิดใช้งานได้ทุกโมดูล - enable-mods-static MODULE-LIST ตัวเลือกนี้จะทำงานคล้ายกับ --enable-mods-shared แต่จะเชื่อมโยงโมดูลที่กำหนดแบบ statically หมายความว่าโมดูลเหล่านี้จะปรากฏในขณะที่กำลังทำงานอยู่เสมอพวกเขาไม่จำเป็นต้องโหลดด้วย LoadModule --enable-modules MODULE-LIST ตัวเลือกนี้จะทำหน้าที่เหมือน --enable-mods-shared และจะเชื่อมโยงโมดูลที่กำหนดแบบไดนามิก การสร้างโมดูลทั้งหมด - enable-v4 mapped อนุญาตให้ซ็อกเก็ต IPv6 รองรับการเชื่อมต่อ IPv4 - พอร์ตแบบ PORT กำหนดพอร์ตที่จะรับฟังหมายเลขพอร์ตนี้ใช้เมื่อสร้างไฟล์การกำหนดค่าค่าเริ่มต้นคือ 80 - - program-name กำหนดชื่อปฏิบัติการอื่นค่าเริ่มต้นคือตัวเลือกเหล่านี้ใช้เพื่อกำหนดแพคเกจที่เป็นทางเลือกโดยทั่วไปคุณสามารถใช้ไวยากรณ์ต่อไปนี้เพื่อกำหนดแพคเกจที่เป็นทางเลือกได้ด้วยแพคเกจ ARG ใช้แพคเกจ PACKAGE ค่าดีฟอลต์สำหรับ ARG ใช่ - ไม่รวม - PACKAGE ไม่ใช้แพคเกจ PACKAGE นี่เหมือนกับ - with-PACKAGE no ตัวเลือกนี้มีไว้ให้โดย autoconf แต่ไม่มีประโยชน์มากสำหรับ Apache Server เลยด้วย - apr DIR FILE Apache Portable Runtime APR เป็นส่วนหนึ่งของการแจกจ่ายที่มา และจะสร้างโดยอัตโนมัติพร้อมกับเซิร์ฟเวอร์ถ้าคุณต้องการใช้ APR ที่ติดตั้งไว้แล้วแทนที่จะต้องกำหนดค่าเส้นทางไปยังสคริปต์ apr-config คุณสามารถตั้งค่าเส้นทางและชื่อหรือไดเรกทอรีหรือไดเรกทอรีไปยัง APPR apr-config ที่ติดตั้งไว้ได้ ต้องมีอยู่ภายในไดเร็กทอรีนี้หรือไดเร็กทอรี bin - with apr-util DIR FILE Apache Portable Runtime Utilities APU เป็นส่วนหนึ่งของการแจกจ่ายที่มาและจะสร้างขึ้นพร้อมกับเซิร์ฟเวอร์ถ้าคุณต้องการใช้ APU ที่ติดตั้งไว้แล้วแทนคุณ ต้องบอกกำหนดเส้นทางไปยังสคริปต์ apu-config คุณอาจกำหนดเส้นทางสัมบูรณ์และชื่อหรือไดเร็กทอรีไปยัง APU apu-config ที่ติดตั้งต้องอยู่ภายในไดเร็กทอรีนี้หรือไดเร็กทอรี bin - with-ssl DIR ถ้า modssl มี bee n เปิดการใช้งานการค้นหาคอนฟิกูเรชันสำหรับ OpenSSL ที่ติดตั้งไว้คุณสามารถกำหนดไดเร็กทอรีเส้นทางไปยังชุดเครื่องมือ SSL TLS แทน - z-DIR กำหนดการค้นหาโดยอัตโนมัติสำหรับไลบรารี zlib ที่ติดตั้งไว้ถ้าการกำหนดค่าต้นทางของคุณต้องการหนึ่งเช่นเมื่อมีการใช้ moddeflate คุณสามารถตั้งค่าไดเร็กทอรี เส้นทางไปยังไลบรารีการบีบอัดแทนคุณลักษณะเฉพาะของเซิร์ฟเวอร์ Apache รวมทั้ง modauthndbm และ modrewrite ของ DBM RewriteMap ใช้ฐานข้อมูลค่าคีย์ง่ายๆสำหรับการค้นหาข้อมูลอย่างรวดเร็ว SDBM จะรวมอยู่ใน APU ดังนั้นฐานข้อมูลนี้จะพร้อมใช้งานเสมอหากคุณต้องการใช้ ชนิดของฐานข้อมูลอื่น ๆ ให้ใช้ตัวเลือกต่อไปนี้เพื่อเปิดใช้งานไฟล์เหล่านี้ด้วยเส้นทาง - gdbm หากไม่มีการระบุเส้นทางการกำหนดค่าจะค้นหาไฟล์รวมและไลบรารีของการติดตั้ง GNU DBM ในเส้นทางการค้นหาตามปกติเส้นทางที่ชัดเจนจะทำให้เกิดการกำหนดค่า มองในเส้นทาง lib และเส้นทางรวมสำหรับไฟล์ที่เกี่ยวข้องท้ายสุดเส้นทางอาจระบุพา ธ เฉพาะและพา ธ ไลบรารีที่คั่นด้วยเครื่องหมาย colon ด้วยเส้นทาง ndbm เช่น - ด้วย gdbm แต่จะค้นหาการติดตั้ง DBM ใหม่ด้วยเส้นทาง berkeley-db เหมือนกับ - with-gdbm แต่จะเป็นการค้นหาการติดตั้ง DB ของ Berkeley ตัวเลือก DBM จะมาจาก APU และส่งผ่านไปยังสคริปต์การกำหนดค่า จะไม่มีประโยชน์เมื่อใช้ APU ที่ติดตั้งไว้แล้วด้วย - with - apr-util คุณอาจใช้การใช้ DBM มากกว่าหนึ่งเครื่องพร้อมกับเซิร์ฟเวอร์ของคุณประเภท DBM ที่เหมาะสมจะถูกกำหนดค่าภายในการกำหนดค่ารันไทม์ในแต่ละครั้ง - enable-static - support สร้างไบนารีการสนับสนุนแบบสแตติกซึ่งหมายความว่าจะมีไลบรารีที่จำเป็นทั้งหมดที่มีการทำงานแบบสแตนด์อโลนซึ่งจะรวมอยู่ในไลบรารีที่จำเป็นทั้งหมดด้วยเช่นกันการสนับสนุนไบนารีจะเชื่อมโยงแบบไดนามิกโดยค่าเริ่มต้น --enable-suexec ใช้ตัวเลือกนี้เพื่อเปิดใช้ suexec ซึ่งอนุญาต คุณต้องตั้งค่า uid และ gid สำหรับกระบวนการ spawned อย่าใช้ตัวเลือกนี้จนกว่าคุณจะเข้าใจถึงผลกระทบด้านความปลอดภัยทั้งหมดของการรัน suid binary ในเซิฟเวอร์ของคุณตัวเลือกเพิ่มเติมในการกำหนดค่า suexec อธิบายไว้ด้านล่างนี้เป็นไปได้ เพื่อสร้างไบนารีที่เชื่อมโยงแบบสแตนด์อโลนของโปรแกรมการสนับสนุนชุดเดียวโดยใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ - enable-static-ab สร้างเวอร์ชันที่เชื่อมโยงกันแบบ static - checkgid แบบคงที่สร้างขึ้นแบบคงที่แบบสแตติก - - htdbm สร้างรุ่นเชื่อมโยงแบบสแตนด์อโลนของ htdbm --enable-static-htdigest สร้างเวอร์ชันเชื่อมโยงแบบสแตนดาร์ดของ htdigest --enable-static-htpasswd สร้างเวอร์ชันที่เชื่อมโยงแบบสแตนด์บายของ htpasswd --enable-static-logresolve สร้างเวอร์ชันที่เชื่อมโยงแบบสแตติก logresolve --enable-static-rotatelogs สร้าง rotatelogs เวอร์ชันที่เชื่อมโยงแบบสแตติกตัวเลือกต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อปรับแต่งพฤติกรรมของ suexec โปรดดูที่การกำหนดค่าและติดตั้ง suEXEC สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม - with-suexec-bin กำหนดเส้นทางไปยัง suexec binary Default คือ --sbindir ดูการปรับแต่งไดเรกทอรีการติดตั้ง - with-suexec-caller กำหนดให้ผู้ใช้สามารถเรียก suexec ได้ควรเหมือนกับผู้ใช้ตามปกติที่ทำงาน --with-suexec-docroot กำหนดการตั้งค่านี้ ต้นไม้ไดเรกทอรีภายใต้การเข้าถึง suexec ที่ได้รับอนุญาตสำหรับ executables ค่าเริ่มต้นคือ - datadir htdocs - with-suexec-gidmin กำหนดว่า GID ต่ำสุดที่อนุญาตให้เป็นผู้ใช้เป้าหมายสำหรับ suexec ค่าดีฟอลต์คือ 100 - with suexec-logfile นี้กำหนดชื่อไฟล์ของ suexec logfile โดยค่าเริ่มต้น logfile มีชื่อว่า suexeclog และตั้งอยู่ใน --logfiledir - with-suexec-safepath กำหนดค่าของตัวแปรสภาพแวดล้อม PATH ที่จะตั้งค่าสำหรับโพรเซสที่เริ่มต้นโดย suexec ค่าดีฟอลต์คือ usr local bin usr bin bin --with-suexec-userdir กำหนดไดเร็กทอรีย่อยนี้ภายใต้ไดเร็กทอรีของผู้ใช้ที่มีไฟล์ executables ทั้งหมดที่สามารถเข้าถึง suexec ได้การตั้งค่านี้จำเป็นเมื่อคุณต้องการใช้ suexec ร่วมกับไดเร็กทอรีที่ผู้ใช้กำหนดโดย moduserdir The ค่าเริ่มต้นคือ publichtml --with-suexec-uidmin กำหนดค่านี้เป็น UID ต่ำสุดที่อนุญาตให้เป็นผู้ใช้เป้าหมายสำหรับ suexec ค่าดีฟอลต์คือ 100 - with-suexec-umask ตั้งค่า umask สำหรับโพรเซสที่เริ่มโดย suexec ค่าเริ่มต้นสำหรับคุณ r การตั้งค่าระบบมีบางตัวแปรสภาพแวดล้อมที่มีประโยชน์ที่จะแทนที่ตัวเลือกที่ทำโดยการกำหนดค่าหรือเพื่อช่วยในการหาไลบรารีและโปรแกรมที่มีชื่อที่ไม่เป็นมาตรฐานหรือสถานที่ CC กำหนดคำสั่งคอมไพเลอร์ C ที่จะใช้สำหรับการคอมไพล์ CFLAGS ตั้งธงคอมไพเลอร์ C ที่คุณต้องการ เพื่อใช้สำหรับการคอมไพล์ CPP กำหนดคำสั่ง preprocessor C ที่จะใช้ CPPFLAGS ตั้งค่าสถานะ preprocessor ของ CC เช่น - I includeir ถ้าคุณมีส่วนหัวในไดเร็กทอรีที่ไม่ผ่านมาตรฐานที่รวมอยู่ LDFLAGS ตั้งค่าสถานะของตัวเชื่อมโยงเช่น - L libdir ถ้าคุณมีไลบรารีในไดเรกทอรีที่ไม่ได้มาตรฐาน libdir ข้อควรระวังนี่ไม่ใช่ส่วน QA ความคิดเห็นที่วางไว้ที่นี่ควรจะชี้ไปที่คำแนะนำในการปรับปรุงเอกสารหรือเซิร์ฟเวอร์และอาจถูกลบออกโดยผู้ดูแลระบบของเราอีกครั้งหากมีการดำเนินการหรือถือว่าเป็นคำถามนอกหัวข้อที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับวิธีจัดการเซิร์ฟเวอร์ Apache ควรจะนำไปใช้ที่ช่อง IRC ของเราบน Freenode หรือส่งไปยังรายชื่อผู้รับจดหมายของเราลิขสิทธิ์ปี 2017 มูลนิธิซอฟต์แวร์ Apache ได้รับอนุญาตภายใต้ Apache License, Version 2 0.configure - กำหนดค่า source tree เพื่อกำหนดตัวแปรสภาพแวดล้อมเช่น CC CFLAGS ระบุว่าเป็น VAR VALUE ดูด้านล่างสำหรับคำอธิบายของตัวแปรที่มีประโยชน์บางตัวเลือกต่อไปนี้มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการกำหนดค่าเอง - C --config-cache นี่คือนามแฝงของ --cache-file FILE ผลลัพธ์การทดสอบจะแคชไว้ในไฟล์ FILE ตัวเลือกนี้ถูกปิดการใช้งานโดยค่าเริ่มต้น - h - ช่วย recursive สั้นเอาท์พุทช่วยและออกด้วยอาร์กิวเมนต์ตัวเลือกเฉพาะสั้น แพคเกจนี้จะแสดง recursive อาร์กิวเมนต์แสดงความช่วยเหลือสั้น ๆ ของแพคเกจรวมทั้งหมด - n-no-create สคริปต์ configure ทำงานตามปกติ แต่ไม่ได้สร้างไฟล์ที่ส่งออกซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการตรวจสอบผลการทดสอบก่อนที่จะสร้าง makefiles สำหรับการคอมไพล์ - q --quiet อย่าพิมพ์ข้อความตรวจสอบระหว่างการกำหนดค่า --srcdir DIR กำหนดไดเร็กทอรี DIR เป็นไดเร็กทอรีไฟล์ต้นทางค่าปริยายคือไดเร็กทอรีที่ตั้งค่าคอนฟิกหรือไดเรกทอรีหลัก - เงียบ เช่นเดียวกับ --quiet - V-version แสดงข้อมูลลิขสิทธิ์และออกจากตัวเลือกเหล่านี้จะกำหนดไดเร็กทอรีการติดตั้งโครงสร้างการติดตั้งจะขึ้นอยู่กับรูปแบบที่เลือกไว้ --- คำนำหน้า PREFIX ติดตั้งไฟล์สถาปัตยกรรมแบบอิสระใน PREFIX ตามค่าเริ่มต้นไดเรกทอรีการติดตั้งจะถูกตั้งค่าไว้ usr local apache2 --exec คำนำหน้า EPREFIX ติดตั้งไฟล์ที่ขึ้นกับสถาปัตยกรรมใน EPREFIX ตามค่าดีฟอลต์ไดเร็กทอรีการติดตั้งจะถูกกำหนดเป็นไดเรกทอรี PREFIX โดยค่าเริ่มต้นให้ติดตั้งจะติดตั้งไฟล์ทั้งหมดใน usr local apache2 bin usr local apache2 lib etc คุณสามารถ ระบุคำนำหน้าการติดตั้งนอกเหนือจาก usr local apache2 โดยใช้ --prefix เช่น --prefix HOME .-- enable-layout LAYOUT กำหนดค่าซอร์สโค้ดและสร้างสคริปต์เพื่อกำหนดโครงสร้างการติดตั้งตามเค้าโครงเลย์เอาต์ซึ่งจะช่วยให้คุณระบุ ตำแหน่งที่ตั้งสำหรับแต่ละชนิดของไฟล์ภายในการติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ Apache แฟ้มประกอบด้วยการกำหนดค่าตัวอย่างหลายและคุณยังสามารถสร้างการกำหนดค่าเองของคุณ followi ตัวอย่างของรูปแบบต่างๆเค้าโครงที่แตกต่างกันในไฟล์นี้จะถูกจัดกลุ่มเป็นส่วนเค้าโครง FOO Layout และเรียกตามชื่อใน FOO เค้าโครงเริ่มต้นคือ Apache เพื่อควบคุมไดเรกทอรีการติดตั้งได้ดียิ่งขึ้นโปรดใช้ตัวเลือกด้านล่างนี้โปรดทราบว่ามีการตั้งค่าเริ่มต้นของไดเรกทอรีไว้ โดย autoconf และจะถูกเขียนทับโดยการตั้งค่าเค้าโครงที่สอดคล้องกัน bindir DIR ติดตั้ง executables ของผู้ใช้ใน DIR executables ของผู้ใช้จะสนับสนุนโปรแกรมเช่น htpasswd dbmmanage ฯลฯ ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้ดูแลระบบไซต์โดยปริยาย DIR จะถูกตั้งค่าเป็น EPREFIX bin - datadir DIR Install อ่าน - เฉพาะข้อมูลสถาปัตยกรรมอิสระใน DIR โดยค่าเริ่มต้น datadir ถูกตั้งค่าเป็น PREFIX share ตัวเลือกนี้มีให้โดย autoconf และไม่ได้ใช้ในปัจจุบัน --includedir DIR การติดตั้ง C ไฟล์ส่วนหัวใน DIR โดยค่าเริ่มต้น includeir ถูกตั้งไว้ที่ EPREFIX ได้แก่ --infodir DIR Install info documentation ใน DIR โดยค่าเริ่มต้น infodir ถูกตั้งค่าเป็นข้อมูล PREFIX ตัวเลือกนี้ยังไม่ได้ใช้ --libdir DIR ติดตั้งไลบรารีรหัสอ็อบเจ็กต์ใน DIR โดยค่าเริ่มต้น libdir คือ SE t ไปยัง EPREFIX lib --libexecdir DIR ติดตั้งไดเร็กทอรีของโปรแกรมเช่นโมดูลที่ใช้ร่วมกันใน DIR โดยดีฟอลต์ libexecdir ถูกตั้งค่าเป็นโมดูล EPREFIX --localstatedir DIR ติดตั้งข้อมูลเครื่องเดียวที่ปรับเปลี่ยนได้ใน DIR โดยดีฟอลต์ localstatedir ถูกตั้งค่าเป็น PREFIX var ตัวเลือกนี้มีให้โดย autoconf and currently unused --mandir DIR Install the man documentation in DIR By default mandir is set to EPREFIX man --oldincludedir DIR Install C header files for non-gcc in DIR By default oldincludedir is set to usr include This option is offered by autoconf and currently unused --sbindir DIR Install the system administrator executables in DIR Those are server programs like apachectl suexec etc which are neccessary to run the Apache Server By default sbindir is set to EPREFIX sbin --sharedstatedir DIR Install modifiable architecture-independent data in DIR By default sharedstatedir is set to PREFIX com This option is offered by autoconf and currently unused --sysconfdir DIR Install read-only single-machine d ata like the server configuration files etc in DIR By default sysconfdir is set to PREFIX conf. These options are used to cross-compile the Apache Server to run on another system In normal cases, when building and running the server on the same system, these options are not used.--build BUILD Defines the system type of the system on which the tools are being built It defaults to the result of the script --host HOST Defines the system type of the system on which the server will run HOST defaults to BUILD --target TARGET Configure for building compilers for the system type TARGET It defaults to HOST This option is offered by autoconf and not necessary for the Apache Server. These options are used to fine tune the features your server will have. Generally you can use the following syntax to enable or disable a feature.--disable - FEATURE Do not include FEATURE This is the same as --enable - FEATURE no --enable - FEATURE ARG Include FEATURE The default value for ARG is yes --enable - MODULE share d The corresponding module will be build as DSO module --enable - MODULE static By default enabled modules are linked statically You can force this explicitly. configure will not complain about --enable - foo even if foo doesn t exist, so you need to type carefully. Some modules are compiled by default and have to be disabled explicitly Use the following options to remove discrete modules from the compilation process.--disable-actions Disable action triggering on requests, which is provided by modactions --disable-alias Disable the mapping of requests to different parts of the filesystem, which is provided by modalias --disable-asis Disable support for as-is filetypes, which is provided by modasis --disable-auth-basic Disable user-based access control provided by modauthbasic This module provides for Basic Authentication, where the usernames and passwords are stored in plain text files --disable-autoindex Disable the directory listing functionality provided by modautoindex --disable-cgi mo dcgi which provides support for CGI scripts, is enabled by default when using a non-threaded MPM Use this option to disable CGI support --disable-cgid When using the threaded MPMs worker support for CGI scripts is provided by modcgid by default To disable CGI support use this option --disable-charset-lite Disable character set translation provided by modcharsetlite This module will be installed by default only on EBCDIC systems --disable-dir Disable directory request handling provided by moddir --disable-env Enable setting and clearing of environment variables, which is provided by modenv Disable the protocol handling The module is a basic one, enabling the server to function as an server It is only useful to disable it if you want to use another protocol module instead Don t disable this module unless you are really sure what you are doing Note This module will always be linked statically --disable-imagemap Disable support for server based imagemaps, which provided by modimagemap --di sable-include Disable Server Side Includes provided by modinclude --disable-log-config Disable the logging configuration provided by modlogconfig You won t be able to log requests to the server without this module --disable-mime modmime associates the requested filename s extensions with the file s behavior and content mime-type language, character set and encoding Disabling this module is normally not recommended --disable-negotiation Disable content negotiation provided by modnegotiation --disable-setenvif Disable support for basing environment variables on headers, which is provided by modsetenvif --disable-status Enable the process thread monitoring, which is provided by modstatus --disable-userdir Disable the mapping of requests to user-specific directories, which is provided by moduserdir. Some modules are compiled by default and have to be enabled explicitly or by using the keywords most or all see --enable-mods-shared below for further explanation to be available Therefore use t he options below.--enable-authn-anon Enable anonymous user access provided by modauthnanon --enable-authn-dbm modauthndbm provides for Basic Authentication, where the usernames and passwords are stored in DBM type database files Use this option to enable the module --enable-authz-dbm modauthzdbm provides for Basic Authorization, where the usernames and groups are stored in DBM type database files Use this option to enable the module --enable-auth-digest Enable RFC2617 Digest authentication provided by modauthdigest This module uses plain text files to store the credentials --enable-authnz-ldap Enable LDAP based authentication provided by modauthnzldap --enable-cache Enable dynamic file caching provided by modcache This experimental module may be interesting for servers with high load or caching proxy servers At least one storage management module e g moddiskcache or modmemcache is also necessary --enable-cern-meta Enable the CERN-type meta files support provided by modcernmeta --enable - charset-lite Enable character set translation provided by modcharsetlite This module will be installed by default only on EBCDIC systems On other systems, you have to enable it --enable-dav Enable the WebDAV protocol handling provided by moddav Support for filesystem resources is provided by the separate module moddavfs This module is also automatically enabled with --enable-dav Note moddav can only be used together with the protocol module --enable-dav-fs Enable DAV support for filesystem resources, which is provided by moddavfs This module is a provider for the moddav module, so you should also use --enable-dav --enable-dav-lock Enable moddavlock which provides generic DAV locking support for backend modules This module needs at least moddav to function, so you should also use --enable-dav --enable-deflate Enable deflate transfer encoding provided by moddeflate --enable-disk-cache Enable disk caching provided by moddiskcache --enable-expires Enable Expires header control provided by modexpires --enable-ext-filter Enable the external filter support provided by modextfilter --enable-file-cache Enable the file cache provided by modfilecache --enable-headers Enable control of headers provided by modheaders --enable-info Enable the server information provided by modinfo --enable-ldap Enable LDAP caching and connection pooling services provided by modldap --enable-logio Enable logging of input and output bytes including headers provided by modlogio --enable-mem-cache Enable memory caching provided by modmemcache --enable-mime-magic Enable automatical determining of MIME types which is provided by modmimemagic --enable-isapi Enable the isapi extension support provided by modisapi --enable-proxy Enable the proxy gateway functionality provided by modproxy The proxying capabilities for AJP13 CONNECT FTP and the balancer are provided by the separate modules modproxyajp modproxyconnect modproxyftp and modproxybalancer These five modules are also automatically enabled with -- enable-proxy --enable-proxy-ajp Enable proxy support for AJP13 Apache JServ Protocol 1 3 request handling, which is provided by modproxyajp This module is an extension for the modproxy module, so you should also use --enable-proxy --enable-proxy-balancer Enable load balancing support for the AJP13 FTP and protocols, which is provided by modproxybalancer This module is an extension for the modproxy module, so you should also use --enable-proxy --enable-proxy-connect Enable proxy support for CONNECT request handling, which is provided by modproxyconnect This module is an extension for the modproxy module, so you should also use --enable-proxy --enable-proxy-ftp Enable proxy support for FTP requests, which is provided by modproxyftp This module is an extension for the modproxy module, so you should also use --enable-proxy Enable proxy support for requests, which is provided by This module is an extension for the modproxy module, so you should also use --enable-proxy --enable-rewrite Enabl e rule based URL manipulation provided by modrewrite --enable-so Enable DSO capability provided by modso This module will be automatically enabled if you use the --enable-mods-shared option --enable-speling Enable the functionality to correct common URL misspellings, which is provided by modspeling --enable-ssl Enable support for SSL TLS provided by modssl --enable-unique-id Enable the generation of per-request unique ids, which is provided by moduniqueid --enable-usertrack Enable user-session tracking provided by modusertrack --enable-vhost-alias Enable mass virtual hosting provided by modvhostalias. The following modules are useful only for developers and testing purposes and are disabled by default Use the following options to enable them If you are not sure whether you need one of these modules, omit them.--enable-bucketeer Enable the manipulation filter for buckets, which is provided by modbucketeer --enable-case-filter Enable the example uppercase conversion output filter support of modcasefilter --enable-case-filter-in Enable the example uppercase conversion input filter support of modcasefilterin --enable-echo Enable the ECHO server provided by modecho --enable-example Enable the example and demo module modexample --enable-optional-fn-export Enable the example for an optional function exporter, which is provided by modoptionalfnexport --enable-optional-fn-import Enable the example for an optional function importer, which is provided by modoptionalfnimport --enable-optional-hook-export Enable the example for an optional hook exporter, which is provided by modoptionalhookexport --enable-optional-hook-import Enable the example optional hook importer, which is provided by modoptionalhookimport. To add the necessary Multi Processing Module and additional third-party modules use the following options.--with-module module-type module-file , module-type module-file. Add one or more third-party modules to the list of statically linked modules The module source file modu le-file will be searched in the modules module-type subdirectory of your Apache server source tree If it is not found there configure is considering module-file to be an absolute file path and tries to copy the source file into the module-type subdirectory If the subdirectory doesn t exist it will be created and populated with a standard. This option is useful to add small external modules consisting of one source file For more complex modules you should read the vendor s documentation. If you want to build a DSO module instead of a statically linked use apxs.--with-mpm MPM Choose the process model for your server You have to select exactly one Multi-Processing Module Otherwise the default MPM for your operating system will be taken Possible MPMs are beos mpmtos2 prefork and worker.--enable-maintainer-mode Turn on debugging and compile time warnings --enable-mods-shared MODULE-LIST. Defines a list of modules to be enabled and build as dynamic shared modules This mean, these module have to be loaded dynamically by using the LoadModule directive. MODULE-LIST is a space separated list of modulenames enclosed by quotation marks The module names are given without the preceding mod For example.--enable-mods-shared headers rewrite dav. Additionally you can use the special keywords all and most For example. will compile most modules and build them as DSO modules. Caveat --enable-mods-shared all does not actually build all modules To build all modules then, one might use. configure --with-ldap --enable-mods-shared all ssl ldap cache proxy authnalias memcache filecache authnzldap charsetlite davlock diskcache.--enable-modules MODULE-LIST This option behaves similar to --enable-mods-shared but will link the given modules statically This mean, these modules will always be present while running They need not be loaded with LoadModule --enable-v4-mapped Allow IPv6 sockets to handle IPv4 connections --with-port PORT This defines the port on which will listen This port number is used when generating the configuration file The default is 80 --with-program-name Define an alternative executable name The default is. These options are used to define optional packages. Generally you can use the following syntax to define an optional package.--with - PACKAGE ARG Use the package PACKAGE The default value for ARG is yes --without - PACKAGE Do not use the package PACKAGE This is the same as --with - PACKAGE no This option is provided by autoconf but not very useful for the A pache Server.--with-apr DIR FILE The Apache Portable Runtime APR is part of the source distribution and will automatically be build together with the server If you want to use an already installed APR instead you have to tell configure the path to the apr-config script You may set the absolute path and name or the directory to the installed APR apr-config must exist within this directory or the subdirectory bin --with-apr-util DIR FILE The Apache Portable Runtime Utilities APU are part of the source distribution and will automatically be build together with the server If you want to use an already installed APU instead you have to tell configure the path to the apu-config script You may set the absolute path and name or the directory to the installed APU apu-config must exist within this directory or the subdirectory bin --with-ssl DIR If modssl has been enabled configure searches for an installed OpenSSL You can set the directory path to the SSL TLS toolkit instead --with-z DIR config ure searches automatically for an installed zlib library if your source configuration requires one e g when moddeflate is enabled You can set the directory path to the compression library instead. Several features of the Apache Server, including modauthndbm modauthzdbm and modrewrite s DBM RewriteMap use simple key value databases for quick lookups of information SDBM is included in the APU, so this database is always available If you would like to use other database types, use the following options to enable them.--with-gdbm path If no path is specified, configure will search for the include files and libraries of a GNU DBM installation in the usual search paths An explicit path will cause configure to look in path lib and path include for the relevant files Finally, the path may specify specific include and library paths separated by a colon --with-ndbm path Like --with-gdbm but searches for a New DBM installation --with-berkeley-db path Like --with-gdbm but searches for a Berkeley DB installation. The DBM options are provided by the APU and passed through to its configuration script They are useless when using an already installed APU defined by --with-apr-util. You may use more then one DBM implementation together with your server The appropriated DBM type will be configured within the runtime configuration at each time.--enable-static-support Build a statically linked version of the support binaries This means, a stand-alone executable will be built with all the necessary libraries integrated Otherwise the support binaries are linked dynamically by default --enable-suexec Use this option to enable suexec which allows you to set uid and gid for spawned processes Do not use this option unless you understand all the security implications of running a suid binary on your server Further options to configure suexec are described below. It is possible to create a statically linked binary of a single support program by using the following options.--enable-static-ab Build a statically linked version of ab --enable-static-checkgid Build a statically linked version of checkgid --enable-static-htdbm Build a statically linked version of htdbm --enable-static-htdigest Build a statically linked version of htdigest --enable-static-htpasswd Build a statically linked version of htpasswd --enable-static-logresolve Build a statically linked version of logresolve --enable-static-rotatelogs Build a statically linked version of rotatelogs. The following options are used to fine tune the behavior of suexec See Configuring and installing suEXEC for further information.--with-suexec-bin This defines the path to suexec binary Default is --sbindir see Fine tuning of installation directories --with-suexec-caller This defines the user allowed to call suexec It should be the same as the user under which normally runs --with-suexec-docroot This defines the directory tree under which suexec access is allowed for executables Default value is --datadir htdocs --with-suexec-gidmin Define this as the lowest GID allowed to be a target user for suexec The default value is 100 --with-suexec-logfile This defines the filename of the suexec logfile By default the logfile is named suexeclog and located in --logfiledir --with-suexec-safepath Define the value of the environment variable PATH to be set for processes started by suexec Default value is usr local bin usr bin bin --with-suexec-userdir This defines the subdirectory under the user s directory that contains all executables for which suexec access is allowed This setting is necessary when you want to use suexec together with user-specific directories as provided by moduserdir The default is publichtml --with-suexec-uidmin Define this as the lowest UID allowed to be a target user for suexec The default value is 100 --with-suexec-umask Set umask for processes started by suexec It defaults to your system settings. There are some useful environment variables to override the choices made by configure or to help it to fi nd libraries and programs with nonstandard names or locations. CC Define the C compiler command to be used for compilation CFLAGS Set C compiler flags you want to use for compilation CPP Define the C preprocessor command to be used CPPFLAGS Set C C preprocessor flags, e g - I includedir if you have headers in a nonstandard directory includedir LDFLAGS Set linker flags, e g - L libdir if you have libraries in a nonstandard directory libdir. Notice This is not a Q A section Comments placed here should be pointed towards suggestions on improving the documentation or server, and may be removed again by our moderators if they are either implemented or considered invalid off-topic Questions on how to manage the Apache Server should be directed at either our IRC channel, on Freenode, or sent to our mailing lists. Copyright 2017 The Apache Software Foundation Licensed under the Apache License, Version 2 0.Apr 1 config binary options. You might ve not faced this problem while installing older version of Apache as we discussed a while back make rotatelogs c 298 warning implicit declaration of function aprfilelink usr lib64 apr-1 build libtool --silent --mode link gcc - std gnu99 - pthread - o rotatelogs usr lib64 libaprutil-1-ldb-4 7 - lexpat - ldb-4 7 usr lib64 libapr-1-lpthread rotatelogs o In function postrotate undefined reference to aprfilelink collect2 ld returned 1 exit status make 2 rotatelogs Error 1 make 2 Leaving directory make 1 all-recursive Error 1 make 1 Leaving directory make all-recursive Error 1cd usr src wget wget tar xvfz apr-1 4 6gz tar xvfz apr-util-1 4 1gz Now, you should place this new version of apr and apr-util directories without the version name in the directory under srclib directory located under the directory that was created when you uncompressed the downloaded apache software Apr 1 config binary options Stock Exchange Jobs May 7, 2012 View all available Apache installation and configuration options as shown below mv apr-1 4 6 mv apr-util-1 4 1 In my exa mple, I downloaded the and uncompressed it under usr src We ve explained in this article how to solve that issue to get the latest Apache working on Cent OS or Red Hat If you like to change this location, use prefix option in the configure. But, let us go with the flow for now and see what happens when you try to do it this way For example, to install SSL with Apache, it is enable-ssl To uninstall any default module that comes with Apache, you would typically say disable - For example, to disable basic authentication in Apache, it is disable-auth-basic In this example, we will install Apache with all default modules, with addition of enable-ssl to install modssl for SSL support , and enable-so, which helps to load modules in Apache during run-time via the Dynamic Shared Object DSO mechanism, rather than requiring a recompilation Apr 1 config binary options 0x97 In Binary Option Binary Option Robot reviews the best binary brokers and auto trading robots on the One of the main reasons whil e trading binary options is popular is because ClientAliveInterval option is only useful when configuring the ssh server aka sshd, it does not change a There are alot more config options to the Now, make will not give undefined reference to aprfilelink error message anymore Next, generate a certificate request file using the above file May 7, 2012 View all available Apache installation and configuration options as shown below mv apr-1 4 6 mv apr-util-1 4 1 When you execute the make , you might get undefined reference to aprfilelink error message if you are doing this on Cent OS 6 2 as shown below. So, I need to place the latest apr and apr-util under this directory Apr 1 config binary options Apache configuration file is located under usr local apache2 conf usr local apache2 bin apachectl start AH00526 Syntax error on line 51 of Invalid command SSLCipher Suite , perhaps misspelled or defined by a module not included in the server configuration vi usr local apache2 conf Load Module sslmo dule usr local apache2 bin apachectl start AH00526 Syntax error on line 76 of SSLSession Cache shmcb session cache not supported known names Fx Best Binary Option Broker For Withdrawal Binary Option Robot reviews the best binary brokers and auto trading robots on the One of the main reasons while trading binary options is popular is because So, we should use with-included-apr in the configure which will use these apr and apr-util only for the apache compilation and installation Best Home Business In Calgary May 7, 2012 View all available Apache installation and configuration options as shown below mv apr-1 4 6 mv apr-util-1 4 1 So, let us re-do the configure using with-included-apr , make and make install as shown below. Note In our case because of the version compatibility issues , we ll be downloading these and installing it manually later To install an Apache module, you would typically say enable - For example, to disable basic authentication in Apache, it is disable-auth-basic In th is example, we will install Apache with all default modules, with addition of enable-ssl to install modssl for SSL support , and enable-so, which helps to load modules in Apache during run-time via the Dynamic Shared Object DSO mechanism, rather than requiring a recompilation Apr 1 config binary options Binary Options Trading At Night Note By default the above installs Apache under usr local apache2 Apr 1 config binary options cd configure --help --with-included-apr Use bundled copies of APR APR-Util --with-apr PATH prefix for installed APR or the full path to apr-config --with-apr-util PATH prefix for installed APU or the full path to apu-config If you decide to install the apr-1 4 6 and apr-util-1 4 1 on your system, you need to use with-apr and with-apr-util and provide the path where you installed these utility i e We didn t install the apr and apr-util that we downloaded I think you ll surprise a lot of Unixheads if the config file overrides command-line options allowing us to doc ument each config option which otherwise So, we should use with-included-apr in the configure which will use these apr and apr-util only for the apache compilation and installation. If you try to follow the how to install Apache with SSL article that we discussed a while back, you ll face an issue during make because of version compatibility between Apache 2 4 4 and APR utilities Apache Portable Runtime Library that comes with Cent OS 6 Apr 1 config binary options Uncomment the Include line and the Load Module sslmodule line in the usr local apache2 conf file Maybe you need to load the appropriate socache module modsocacheshmcb vi usr local apache2 conf Load Module socacheshmcbmodule usr local apache2 bin apachectl start Apache 2 4 2 modssl Pass Phrase Dialog Some of your private key files are encrypted for security Exchange Prices Macedonia Instead we placed them under the List Of Binary Options Websites Trader 2016 In order to read them you have to provide the pass phrases.
No comments:
Post a Comment